ของขลังหรือวัตถุมงคลมีมานานนับพันปีแล้วในชนชาติอื่น ๆก็มี ซึ่งเกิดจากความเชื่อถือ/ศรัทธาในสิ่งนั้น ๆ คนไทยส่วนใหญ่จมีความเชื่อถือแบบประยุกต์ระหว่าง พุทธ พราหมณ์ ผี และอีกส่วนหนึ่งก็มีความเชื่อถือในลัทธิศาสนาอื่น ๆอีกหลายลัทธิ หลายศาสนา และเป็นสิทธิตามกฎหมายด้วย
ในยุคแรก ๆ จะนิยมพระเครื่องหรือรูปจำลองที่พกพาติดตัวไปข้างนอกได้ (พระพิมพ์) สร้างขึ้นเพื่อ “เอาบุญ” นิยมใส่กรุ หีบ ไห บรรจุใต้ฐานเจดีย์
ในยุค ร. 3, ร. 4 นิยมพระกริ่ง ซึ่งมีอิทธิพลจากพุทธนิกายมหายาน แต่ในยุคนี้จะนิยมพระเครื่องเป็นพุทธรูป รูปเกจิต่าง ๆ รูปเทพต่าง ๆ และที่นักเลงพระนิยม คือ เบญจภาคี ประกอบด้วย 1) สมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม 2) พระนางพญา จ. พิษณุโลก 3) พระกำแพงซุ้มกอ จ. กำแพงเพชร 4) พระผงสุพรรณ จ. สุพรรณบุรี และ5) พระรอด จ.ลำพูน และนอกจากนี้ยังมีอื่น ๆ อาทิ หลวงปู่ทวด ขุนแผน สมเด็จวัดปากน้ำ เป็นต้น
สรุปได้ว่า ความเชื่อถือ/ศรัทธาในเรื่องนี้มีมาช้านาน และมีพัฒนาการมาตามยุคตามสมัย ฯ
ส.ส.
10/12/67
ยังไม่มีการตอบกลับ